4247 จำนวนผู้เข้าชม |
Gordon Murray T.50 ไฮเปอร์คาร์ตัวล่าสุด ที่แฝงกลิ่นอายความเป็น McLaren F1 แน่นอนเพราะ Gordon Murray ในอดีตเขาคือผู้ริเริ่มโปรเจ๊คออกแบบ McLaren F1 ไฮเปอร์คาร์ระดับตำนาน ที่ได้รับการยกย่องจนถึงทุกวันนี้ เขาจึงอยากปลุกตำนานนั้นกลับมา ด้วยการใส่เทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน ร่วมกับแอร์โรไดมิกขั้นเทพเข้าไป
Gordon Murray T.50 ตัวถังใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เต็มรูปแบบ มาพร้อมน้ำหนักอันน่าทึ่งเพียง 986 กิโลกรัม เบายิ่งกว่าอีโคคาร์ ช่วงล่างเป็นแบบ Double Wishbone ทั้งสี่ล้อ ชุดล้อใช้วัสดุ Forged อลูมิเนียม ให้มาขนาด 19 นิ้ว และด้านหลัง 20 นิ้ว หุ้มด้วยยาง Michelin Pilot Sport 4 S ระบบเบรกจากทาง Brembo แบบคาร์บอน-เซรามิค จานหน้าขนาด 370 มม. ก้ามเบรก 6 สูบ และด้านหลังขนาด 340 มม. ก้ามเบรก 4 สูบ
ด้านแอร์โรไดมามิกถือเป็นไฮไลท์ของรถรุ่นนี้ เราจะสังเกตว่ามันไม่มีลิ้นหน้าขนาดใหญ่แบบในซุปเปอร์คาร์รุ่น อื่นๆ เพราะมันติดตั้งพัดลมขนาด 400 มม. ไว้ท้ายรถ พร้อมออกแบบให้มีท่อดักอากาศมีพานพับเปิด-ปิดได้ ซ่อนไว้ใต้ท้องรถ ทำหน้าที่ลดอุณหภูมิเครื่องยนต์ รวมถึงเพิ่ม Downforce ไปในตัว การทำงานของระบบแอร์โรนี้ มีโหมดใช้งานแบบอัตโนมัติ คือ ‘Auto Mode’ ทั้งสปอยเลอร์ท้าย ใบพัด และท่อดักอากาศ จะทำงานอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะสมกับทุกย่านความเร็ว และถ้าคุณกำลังลดความเร็ว มันจะเข้าสู่ ‘Braking Mode’ ปีกท้ายจะยกตั้งขึ้น พร้อมกับเร่งกำลังใบพัดสูงสุด เพื่อช่วยเสริมแรงกดในขณะเบรก ส่งผลให้ได้ระยะเบรกที่สั้นลงกว่า 10 เมตร เมื่อเบรกที่ความเร็ว 241 กม./ชม.
ยังไม่จบเพราะมันยังเหลือ Aero mode อีก 4 โหมด ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้เองได้ เริ่มจาก ‘High Downforce Mode’ โหมดนี้ทั้งสปอยเลอร์ท้าย และใบพัดจะทำงานร่วมกัน ช่วยเพิ่ม Downforce เข้ามา 30% ‘Streamline Mode’ โหมดนี้จะช่วยลดแรงต้านอากาศลง 10% ไว้ใช้สำหรับซัดทางตรง และช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ต่อมาที่ ‘Vmax Mode’ โหมดนี้การทำงานเหมือนโหมดก่อนหน้า แต่จะเพิ่มแรงม้าเข้ามาให้อีก 30 ตัว เวลาสูงสุด 3 นาที เป็นพลังจากมอเตอร์ขนาด 48 โวลต์ เหมาะกับการทำท๊อปสปีดที่สุด และโหมดสุดท้าย ‘Test Mode’ ชื่อตรงตัวเป็นโหมดสำหรับเช๊คความพร้อมของระบบ Aero ว่าทำงานสมบูรณ์ไหม โหมดนี้ใช้งานได้เมื่อรถจอดอยู่นิ่งเท่านั้น
ภายในห้องโดยสาร มันมาในรูปแบบเดียวกับ McLaren F1 แป้นคันเร่งวัสดุไทเทเนียม เบาะนั่งเป็นคาร์บอนไฟเบอร์เบาพิเศษ จัดตำแหน่งให้ผู้ขับขี่อยู่ศูนย์กลาง ขนาบข้างด้วยผู้โดยสารทั้ง 2 ฝั่ง การออกแบบเน้นความเรียบง่าย พวงมาลัยหุ้มหนัง 3 ก้าน มาตรวัดความเร็วแบ่งเป็น 3 ช่อง มีวัดรอบเข็มอนาล๊อคอยู่กึ่งกลาง ส่วนซ้ายขวาจะเป็นจอ LCD แสดงข้อมูลต่างๆ ลูกบิดทรงกลมใกล้ๆ กันนั้นไว้สำหรับปรับไฟหน้า, ที่ปัดน้ำฝน ระบบปรับอากาศ และการปรับโหมด บริเวณคันเกียร์มีการสลักลายเซ็น Gordon Murray ไว้ พร้อมแถบอลูมิเนียมระบุหมายเลขว่าเป็นคันที่เท่าไหร่
มาต่อกันที่ขุมพลัง เครื่องยนต์ของ Gordon Murray T.50 เป็นแบบ V12 ทำมุม 65 องศา ขนาด 3.9 ลิตร ที่ทางบริษัทเคลมไว้ว่า เป็นเครื่องที่น้ำหนักเบาที่สุดเพียง 178 กิโลกรัม ลากรอบได้สูงที่สุดกว่า 12,100 รอบ/นาที และเป็นเครื่องแบบ N/A ไร้ระบบอัดอากาศที่ทรงพลังที่สุด ณ เวลานี้ สามารถเค้นกำลังได้สูงสุด 663 แรงม้า ที่ 11,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 467 นิวตัน-เมตร ที่ 9,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์แมนน่วล 6 สปีด จากทาง Xtrac ที่มีน้ำหนักเพียง 80.5 กิโลกรัม เท่านั้น
Gordon Murray T.50 ผลิตมาในจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน ตั้งราคาไว้ที่ 2.36 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยได้กว่า 96 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าเลยนะ
บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Gordon Murray Automotive