1642 จำนวนผู้เข้าชม |
DBX กลายเป็นลูกรักของ Aston Martin ไปแล้ว เพราะปีแรกที่เปิดตัวมันกวาดยอดขายไปมากกว่า 3,000 คัน และคว้ารางวัลต่างๆ มามากมาย มาปี 2022 เลยสานต่อด้วยของโหดอย่าง DBX707 ที่ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็น SUV ที่ทรงพลังที่สุดเป็นที่เรียบร้อย มาดูกันว่าหล่อขึ้นแค่ไหน เปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง
DBX707 เวอร์ชั่นท๊อปสุดของ DBX ที่เน้นด้านขับขี่เร้าใจอย่างแท้จริง จุดที่เปลี่ยนไปจาก DBX รุ่นปกติ ที่เห็นชัดสุดนั่นคือ แผงกระจังหน้าที่ใหญ่อลังกาลกว่าเดิม กันชนหน้าดีไซน์ใหม่เพิ่มลิ้นเสริมแรงกด ปรับปรุงช่องทางเข้าอากาศและท่อระบายความร้อนระบบเบรกใหญ่ขึ้น ไฟโดนัท DRL หายไปเปลี่ยนมาเป็นแบบเส้นเรียบๆ สเกิร์ตข้างทรงเฉียบ บั้นท้ายติดสปอยเลอร์หลังคาทรงใหม่ กันชนก็ใหม่มีเพิ่มช่องรีดอากาศออกจากซุ้มล้อสองฝั่ง ท่อไอเสียมาแบบโหดๆ 4 ท่อ และดิฟฟิวเซอร์ใหม่ใหญ่เอาเรื่อง เพื่อความเร้าใจยิ่งขึ้น พวงมาลัยไฟฟ้ายังถูกปรับค่าให้คมขึ้นในโค้ง ช่วงล่างถุงลม triple volume air chambers ยังเหมือนใน DBX ปกติ แต่เพิ่มฟีเจอร์วาล์วแดมเปอร์ใหม่ และสวิตช์ปรับค่าสปริง เบรกยัดแบบคาร์บอน-เซรามิค มาเป็นมาตรฐาน ด้านหน้า 420 มม. คาลิปเปอร์ 6 สูบ หลัง 390 มม.คาลิปเปอร์สูบเดียว และล้อจะให้ขนาด 22 นิ้ว Sport สีทูโทน Gloss Black Diamond Turned จากโรงงานเลย
ห้องโดยสารของ DBX707 ยังเพิ่มธีมตกแต่งใหม่เรียกว่า Inspire Sport เราจะได้เบาะหนังทรงสปอร์ตปรับไฟฟ้า 16 ทิศทาง ทำเป็นลวดลายเจาะงานเย็บสวยงาม พวงมาลัยเลือกเป็นหนังหรือ Alcantara ได้ ทริมตกแต่งมีให้เลือกทั้งไม้ Piano Black, คาร์บอนไฟเบอร์เงา หรือไม้สีทอง Gloss Bronze Mesh ถ้ายังไม่พอใจโทนสีเบาะหรือวัสดุต่างๆ สามารถสั่งพิเศษเฉพาะตัวจากแผนก Q ได้เลย และบริเวณคอลโซลกลางมีสิ่งที่ DBX ปกติไม่มีนั่นคือ ลูกบิดขนาดใหญ่ Dynamic Drive modes ไว้ปรับโหมดการขับขี่ ไม่ต้องเข้าผ่านจอ Infotainment ช่วยลดเวลาไปได้เยอะ
ขุมพลังของ DBX707 ยังใช้แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ เหมือนรุ่นปกติ แต่เปลี่ยนแปลงในส่วนเทอร์โบมาใช้แบบ Ball Baring Turbo ระบบลูกปืน (DBX รุ่นปกติเป็นแบบ Twin Scroll) มีการปรับตั้งค่าเครื่องยนต์ใหม่ เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ในรุ่นปกติจะเป็น Toque Converter ก็ถูกเปลี่ยนมาใช้แบบ ”คลัทซ์เปียก” ทำให้เปลี่ยนเกียร์ได้ไวขึ้นและรับมือกำลังที่มากขึ้นได้เหนือกว่า และยังมีเฟืองท้ายอิเล็คทรอนิคส์ลิมิเต็ดสลิป (e-diff) เวอร์ชั่นใหม่ ที่ปรับอัตราทดเฟืองท้ายให้สั้นลงที่ 3.27 (รุ่นปกติ 3.07) เหล่านี้ส่งผลให้ได้ม้าเพิ่มจากเดิม 157 ตัว เป็น 707 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดเพิ่มอีก 200 กลายเป็น 900 นิวตันเมตร ที่ 2,600-4,500 รอบ/นาที เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.3 วินาที (ไวขึ้น 1.2 วิ) ช่วงเร่งแซง 80-120 กม./ชม. ใน 1.9 วินาที (ไวขึ้น 0.7 วิ) กับท๊อปสปีดที่เพิ่มอีก 19 กลายเป็น 310 กม./ชม.
DBX707 จะเริ่มผลิตในไตรมาสที่ 1 ปี 2022 และกำหนดการส่งมอบเริ่มไตรมาส 2 ปี 2022 สำหรับราคายังไม่ประกาศ ถ้าเข้าไทยเพื่อนๆ ว่าเท่าไหร่เฉียด 30 ล้านบาทไหม??
บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Aston Martin