5679 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 วันนี้ Koenisegg Jesko ก็พร้อมสำหรับการผลิตเรียบร้อย ประเดิมด้วยการโชว์รถ Pre-Production คันสีส้มจื๊ด Tang Orange Pearl ที่ให้เราลำรึกแบบในรุ่น CCR กันเลย
ใครที่กำลังเล็ง Koenisegg Jesko ต้องรู้ไว้ เพราะเขามีให้เลือก 2 สไตล์ คือ Jesko และ Jesko Absolut เพื่อนๆ ล่ะจะเลือกรุ่นไหน??
Koenigsegg Jesko รุ่นนี้เหมาะกับสายพริ้วเข้าโค้งในสนามแข่ง แรงกดหนักๆ แซสซีส์เป็นแบบคาร์บอนไฟเบอร์ Monocoque ห่อหุ้มด้วยเปลือกตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ผสมเคฟล่า น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 1,320 กก. ด้านแอร์โรไดนามิก กันชนหน้าเสริมครีบ splitter, ดิฟฟิวเซอร์ท้ายขนาดใหญ่ และติดตั้งปีกหลังแอคทีฟ 2 ชั้น ที่ความเร็ว 250 กม./ชม จะทำแรงกดได้ 800 กก., 275 กม./ชม. ทำได้ 1000 กก. และแรงกดสูงสุดทำได้ 1,400 กก.
Koenigsegg Jesko Absolut ตัวนี้เป็นสายทำท๊อปสปีดโดยเฉพาะ น้ำหนักรถเปล่าที่ 1,290 กก. (เบากว่า Jesko 30 กก.) ช่วงล่างถูกเซทใหม่ให้นุ่มกว่า ด้านแอร์โรไดนามิก ตัดครีบ splitter ที่กันชนหน้าแบบ Jesko ออกไป มีการยืดส่วนท้ายรถยาวกว่าตัว Jesko อีก 85 มม. ลู่ลมด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.278 Cd. แรงกดสูงสุดลดลงอย่างมากเหลือเพียง 150 กก. เพราะตัดปีกท้ายออก และแทนด้วยครีบท้ายแบบแยก 2 ชิ้น ช่วยรักษาสเถียรภาพในความเร็วสูง
ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุภาพสูง หนังแท้, Alcantara, อลูมิเนียม ลดน้ำหนักด้วยคาร์บอนไฟเบอร์โดยรอบ พวงมาลัยมีปุ่มแบบสัมผัส โดดเด่นด้วยหน้าจอ SmartCluster ขนาด 5 นิ้ว เอียงองศาได้ตามพวงมาลัย ส่วนหน้าจอสัมผัส Infotainment ก็ปรับปรุงระบบใหม่ให้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น แถมยังไม่ลืมช่องวางแก้ว 2 ช่อง
ทั้ง Jesko และ Jesko Absolut ใช้ขุมพลัง 5.0 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ 4 วาล์วต่อสูบ Flat-plane crankshaft DOHC ระบบน้ำมันหล่อลื่นแบบ Dry sump ใช้เกียร์ 9 สปีด คลัทซ์คู่ Light Speed Transmission (LST) ที่เปลี่ยนเร็วที่สุดในโลก มี Electronic Differential และสมองควบคุมเกียร์อัจฉริยะ Ultimate Power On Demand (UPOD) ทำกำลังได้ 1,280 แรงม้า (BHP) ที่ 7,800 รอบ/นาที แต่ถ้าเติมน้ำมัน E85 จะอัพไปสูงสุด 1,600 แรงม้า (BHP) แรงบิดสูงสุด 1,500 นิวตัน-เมตร ที่ 5,100 รอบ/นาที
Jesko ทั้ง 2 รุ่นจะผลิตออกมารวม 125 คัน เท่านั้น และมันถูกจองหมดเกลี้ยงไปนานแล้ว รถคันแรกมีกำหนดส่งมอบในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 สำหรับราคาค่าตัวถ้าจัดแบบ Full option จะแตะระดับ 4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 130 ล้านบาท ยังไม่รวมภาษีนำเข้า
บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Koenigsegg