DBS GT Zagato จ่ายทีเดียว 200 ล้าน ได้กลับไปแพ๊คคู่

Zagato สำนักออกแบบชื่อดังแห่งเมืองมิลาน ซึ่งมีผลงานออกแบบให้กับค่ายรถชื่อดังระดับโลกหลายแบรนด์ และผลงานล่าสุดเป็นรถ Aston Martin โดยการนำเอารุ่น DBS Superleggera มาแปลงโฉมกันใหม่ในสไตล์ของ Zagato นามว่า DBS GT Zagato พร้อมขึ้นแท่น V12 ที่แรงที่สุดของแอสตันมาติน

DBS GT Zagato มีดีไซน์ที่ออกแบบใหม่หมดทั้งคันโดยจะเน้นในส่วนของบอดี้ภายนอกเป็นหลัก เป็นรถ GT ที่ดูปราดเปรียว ใช้โทนสีพิเศษ “Supernova Red” กระจังหน้ารูปแบบใหม่ เปิด-ปิด แบบ Active ดูคล้ายฟันฉลาม เพิ่มการไหลเวียนของอากาศ ตราโลโก้ทำจากทองคำแท้ 18 กะรัต ล้อ 5 ก้าน ลาย 3 มิติ แบบ Center-Lock เส้นสายของรถที่ดูเรียบง่ายคลาสสิค ช่องลมต่างๆ ตามหลักอากาศพลศาตร์ ส่วนท้ายมีจุดเด่น คือหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์รูปทรงโหนกคู่ (Double-bubble roof) อันเป็นเอกลักษณ์ของทาง Zagato ที่ทอดยาวแบบไร้กระจกบานหลัง ไม่ต้องกลัวว่าจะมองไม่เห็นเพราะติดกล้องหลังมาให้

ภายในห้องโดยสารของ DBS GT Zagato นั้นมาในโทนสีจัดจ้าน ใช้วัสดุคุณภาพสูงทั้ง หนังแท้ คาร์บอนไฟเบอร์ และ Alcantara มีชิ้นงานที่ออกแบบด้วย 3D-printed ใช้เวลาทำร่วม 100 ชั่วโมง ถือว่าเป็นงานฝีมือที่ต้องละเอียดจริงๆ

DBS GT Zagato เครื่องยนต์แน่นอนว่าใช้พื้นฐานจาก DBS Supeleggera แบบ V12 Quad Overhead cam 48 วาล์ว 5.2 ลิตร เทอร์โบคู่ 715 แรงม้า แต่เมื่อเป็น Zagato มันถูกปรับจูนกำลังเพิ่มเป็น 760 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด ข้อมูลอัตราเร่งไม่ถูกเปิดเผยออกมา แต่คาดว่าน่าจะต่ำกว่า 3.6 วินาที ของเครื่องมาตรฐาน

DBS GT Zagato ใช้ระบบเบรกใช้จาน คาร์บอน-เซรามิค ด้านหน้า 410 มม. กับหลัง 360 มม. ระบบกันสะเทือน ด้านหน้า แบบ Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโคลง กับระบบ Adaptive damping ด้านท้ายเป็น Multi-Link

DBS GT Zagato ผลิตออกมาเพียง 19 คัน และขายเป็นแพ๊คคู่พร้อมกับ 1960 DB4 GTZ สุดคลาสสิค ที่เหมาะสำหรับนักสะสมรถ โดย DBS GT Zagato และ 1960 DB4 GTZ ทั้ง 2 คันนี้มูลค่า 6 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยโดยประมาณกว่า 200 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษีนำเข้า)

บทความโดย : Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Zagato