5154 จำนวนผู้เข้าชม |
Bugatti ฉลองอายุครบ 110 ปี ด้วยไฮเปอร์คาร์รุ่นพิเศษ โดยใช้ชื่อว่า Centodieci ชื่อนี้ในภาษาอิตาลีจะหมายถึง “Hundred Ten” รถรุ่นใหม่นี้มีแรงบันดาลใจจากรถรุ่นพี่ในอดีต EB110 โดยจะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Chiron แต่ปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิม 20 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับ Chiron ปกติ และ เบากว่า 2 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับ Chiron Sport ผลจากการเปลี่ยนชิ้นส่วนหลายอย่าง และชุดตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์แบบใหม่เข้าไป
ตัวรถยังคง DNA ของรุ่น EB110 ไว้รอบคัน ผนวกกับแนวทางยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว ด้านหน้าตัวรถลาดต่ำตามหลักอากาศพลศาสตร์ กระจังหน้าทรงเกือกม้าขนาดเล็ก แยกส่วนกับโลโก้ที่ถูกย้ายไปบนฝากระโปรงหน้าเหมือนใน EB110 ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ ด้านข้างตัวรถมีช่องวงกลมจำนวน 5 รู คอยดูดอากาศช่วยลดอุณภูมิเครื่องยนต์ ถือเป็นซิกเนเจอร์ที่ขาดไม่ได้ บั้นท้ายโดดเด่นด้วยไฟท้าย 8 ชิ้น แบบ 3 มิติ มาพร้อมสปอยเลอร์ขนาดใหญ่สามารถปรับองศาได้อัตโนมัติ และดิฟฟิวเซอร์รีดอากาศด้านล่างเคียงข้างปลายท่อไอเสียแนวตั้งแบบ 2+2 เพิ่มความดุดัน
Centodieci มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ W16 ขนาด 8 ลิตร เทอร์โบ 4 ลูก ระบบขับเคลื่อน All-Wheel Drive จับคู่กับเกียร์ 7 สปีด DSG รีดกำลังได้สูงสุด 1,600 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที มีแรงม้าต่อน้ำหนักที่ 1.13 กิโลกรัม ต่อแรงม้า
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.4 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ในเวลา 6.1 วินาที อัตราเร่ง 0-300 กม./ชม. ในเวลา 13.1 วินาที Top speed สูงสุดที่ 380 กม./ชม. (ถูกจำกัดไว้)
มันจะถูกผลิดอย่างประณีตด้วยมือ ที่โรงงานในเมืองมอลไซม์ ประเทศฝรั่งเศส จำกัดเพียง 10 คัน และถูกขายหมดเรียบร้อย คาดว่าจะได้เห็นตัวเป็นๆ วิ่งกัน ราวๆ ปี 2021 ด้วยราคากว่า 9,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 274 ล้านบาท ไม่รวมภาษี ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นสุดพิเศษที่เชื่อว่าเก็บไว้ระยะเวลานาน มูลค่าของมันจะสูงขึ้นเท่าตัวแน่นอน
บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Bugatti
ภาพจาก : Wsupercar